
ลาก Chon_elv และ Chon_pro
ผลลัพธ์

จากนั้นทำการ IDW โดยใช้ field elv เป็น Field ที่เก็บค่าความสูงของพื้นที่เอาไว้ โดยช่องแรกInput เลือก Chon_elv Z value เลือก ele Output ตั้งชื่อเป็น Dem Cell size เลือก 40 แล้วมาตั้งค่าที่ Environments

Processing Extent ช่อง Extent เลือก same as layer Chon_pro
และช่อง Raster Analysis หัวข้อ Mask เลือก Chon_pro หลังจากนั้น OK
กด OK
ผลลัพธ์
หลังจากได้ข้อมูลออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไป จะทำการคำนวณค่าความลาดชัน เปิดคำสั่ง Slope ขึ้นมา ช่อง input เลือก Dem output ตั้งชื่อ slope เลือกเป็น DEGREE และกด OK
ผลลัพธ์
เปิด Reclassify ช่อง Input ใส่ slope และไปตั้งค่าที่ classify
จะขึ้นหน้าต่าง Classification Method (ปรับเป็นค่าอื่นก่อน) เลือก Manual ช่อง Classes 4 และเปลี่ยนค่าตรง Blreak Values เรียง 5 15 30 และค่าสูงสุด หลังจากนั้นกด OK
และทำการเปลี่ยนคะแนนตรง New Values และตั้งชื่อที่ Output raster เป็น Re_slope หลังจากนั้นกด OK
ผลลัพธ์ของ Re_slope
หลังจากนั้นเปิดข้อมูล Chon_geo และทำการเปิดตาราง attribute
สร้าง field ใหม่ไปที่ Add Field
สร้าง field ใหม่ตั้งชื่อ Score และ Type เป็น Short Integer และ Precision เป็น 2 จากนั้นกด OK
ผลลัพธ์
หลังจากนั้นทำการจัดกลุ่มข้อมูล เปิดคำสั่ง Select by attribute Method DESC_T1 และกด Get Unique Values "DESC_T1" = 'หินกรวดมน หินฟิลไลต์ หินทรายเนื้อภูเขาไฟกึ่งแปรสภาพ และหินชนวน' OR "DESC_T1" = 'หินทราย หินทรายเนื้อภูเขาไฟ หินปูนเนื้อดิน และหินปูนเนื้อไข่ปลา หินไรโอลิติกทัฟฟ์และแอนดิซิติกทัฟฟ์กึ่งแปลสภาพ หินดินดานเลนซ์ หินปูนหินเชิร์ต' OR "DESC_T1" = 'หินทราย หินปูนเนื้อดิน หินดินดาน และหินเชิร์ต' OR "DESC_T1" = 'หินทรายอาร์ดคส สีขาว มีหินกรวดมนและหินดินดานแทรกสลับ' หลังจากนั้นกด Apply ข้อมูลก็จะปรากฏ โดยมี 51ข้อมูล
หลังจากนั้นคลิกขวาที่ Score เลือก Field Calculator
ช่อง Score = 1 หลังจากนั้นกด OK
ผลลัพธ์
ทำการ Clear Select และทำการ Slect by attributes จัดกลุ่มใหม่ "DESC_T1" = 'ตะกอนชายฝั่งทะเลโดยอิทธิพล น้ำขึ้น-ลง โคลน ตม ทรายละเอียด ป่าชายเลน พรุ พื้นที่ชื้นแฉะ ชวากทะเล' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนชายฝั่งทะเลโดยอิทธิพลคลื่น ทรายหาด สันดอนทราย เนินทราย' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนที่ราบสะสมตัวโดยทางน้ำ ตะกอนกรวด ทราย ทรายแป้ง ดิน สะสมตามร่องน้ำ และที่ราบน้ำท่วมถึง' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนสะสมตัวตามเชิงเขา ตะกอนผุพังอยู่กับที่ เศษหิน ทราย ดิน ชั้นศิลาแลง' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนเนินตะพัก ชั้นกรวด ทราย ทรายแป้ง ดิน และหินลูกรัง' หลังจากนั้นกด apply ข้อมูลก็จะปรากฏ โดยมี 45 ข้อมูล
หลังจากนั้นคลิกขวาที่ Score เลือก Field Calculator ช่อง Score = 2 หลังจากนั้นกด OK
ผลลัพธ์
ทำการ Clear Select และทำการ Slect by attributes จัดกลุ่มใหม่ "DESC_T1" = 'ตะกอนชายฝั่งทะเลโดยอิทธิพล น้ำขึ้น-ลง โคลน ตม ทรายละเอียด ป่าชายเลน พรุ พื้นที่ชื้นแฉะ ชวากทะเล' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนชายฝั่งทะเลโดยอิทธิพลคลื่น ทรายหาด สันดอนทราย เนินทราย' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนที่ราบสะสมตัวโดยทางน้ำ ตะกอนกรวด ทราย ทรายแป้ง ดิน สะสมตามร่องน้ำ และที่ราบน้ำท่วมถึง' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนสะสมตัวตามเชิงเขา ตะกอนผุพังอยู่กับที่ เศษหิน ทราย ดิน ชั้นศิลาแลง' OR "DESC_T1" = 'ตะกอนเนินตะพัก ชั้นกรวด ทราย ทรายแป้ง ดิน และหินลูกรัง' หลังจากนั้นกด apply ข้อมูลก็จะปรากฏ โดยมี 94 ข้อมูล
หลังจากนั้นคลิกขวาที่ Score เลือก Field Calculator ช่อง Score = 3 หลังจากนั้นกด OK
ผลลัพธ์ และอย่าลืม Clear selection ทุกครั้ง
ต่อมาเปิดคำสั่ง polygon to raster ช่อง Input เลือก Chon_geo ช่อง Value field เลือก Score ช่อง Output ตั้งชื่อ Re_geo เปลี่ยน Cellsize 40 และกด OK
ผลลัพธ์
หลังจากนั้นนำเข้าข้อมูล Chon_tran และเปิดคำสั่ง Euclidean Distance ช่อง input เลือก Chon_tran output ตั้งชื่อ tran Cell size 40 หลังจากนั้นกด Environments
Processing Extent ช่อง Extent เลือก same as layer Chon_pro
ช่อง Raster Analysis หัวข้อ Mask เลือก Chon_pro หลังจากนั้น OK
กด OK
ผลลัพธ์
หลังจากนั้นทำการจัดกลุ่ม โดยใช้คำสั่ง Reclassify ช่อง input เลือก tran กดที่ classify
เลือก Method (ปรับเป็นค่าอื่นก่อน) เลือก Manual ช่องClasses 4 และเปลี่ยนค่าตรง Blreak Values 1000 2000 3000 <3000 หลังจากนั้น OK
เปลี่ยนค่าตรง New Values 0-1000 = 0, 1000-2000 = 1, 2000-3000 = 2 และ <3000 = 3 ตั้งชื่อว่า Re_tran หลังจากนั้นกด OK
ผลลัพธ์
หลังจากนั้นนำข้อมูล Chon_vill เข้ามา เปิดคำสั่ง Euclidean Distance ช่อง input เลือก chon_vill output ตั้งชื่อ vill Cell size 40 หลังจากนั้นกด Environments
Processing Extent ช่อง Extent เลือก same as layer Chon_pro
ช่อง Raster Analysis หัวข้อ Mask เลือก Chon_pro หลังจากนั้น OK
กด OK
ผลลัพธ์
หลังจากนั้นทำการ Reclassify ช่อง input เลือก vill กดที่ classify
เลือก Method (ปรับเป็นค่าอื่นก่อน) เลือก Manual ช่องClasses 4 และเปลี่ยนค่าตรง Blreak Values 1000 2000 3000 <3000 และกด OK
ตั้งค่าช่อง New Values 0-1000 = 0, 1000-2000 = 1, 2000-3000 = 2 และ <3000 = 3 ตั้งชื่อว่า Re_vill หลังจากนั้นกด OK
ผลลัพธ์
หลังจากนั้นทำการเรียงลำดับ ข้อมูลใหม่ Re_elv, Re_geo, Re_Tran และ Re_vill ตามลำดับ (บน-ล่าง)
หลังจากนั้นเปิดคำสั่ง Raster Calculator จะปรากฏหน้าต่าง Raster calculatorขึ้นมา (3 * "Re_slope ") + (2 * "Re_Geo ") + (3 * "Re_tran ") + (4 * "Re_Vill ") หลังจากนั้น output ตั้งชื่อ sum
ผลลัพธ์
หลังจากนั้นเปิดคำสั่ง Reclassify ช่อง input เลือก sum หลังจากนั้นคลิกที่ classify
เลือก Method(ปรับเป็นค่าอื่นก่อน) เลือก Manual ช่องClasses 3 และเปลี่ยนค่าตรง Blreak Values 15.07, 27.47 และ 36 กด OK
ที่ช่อง New Values 2-15.07 = 1, 15.07-27.47 = 2 และ 27.47-36 = 3 ตั้งชื่อว่า landfill และกด OK
ผลลัพธ์
คลิปวีดีโอสาธิตวิธีการวิเคราะห์เเบบจำลองเเรสเตอร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น